ปริมาณอาหารที่ลูกน้อยควรทาน 1 วัน

Last updated: 27 ก.ย. 2563  |  6453 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปริมาณอาหารที่ลูกน้อยควรทาน 1 วัน

อาหารเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องเลือกและวางแผนการกินอย่างระวัง เด็กน้อย ตัวเล็กๆ แต่พลังงานและสารอาหารที่เขาต้องการนั้นไม่น้อยเลยนะคะ เด็กเล็ก วัย 1-3 ขวบ จำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารมากกว่าผู้ใหญ่ถ้านับตามสัดส่วนของน้ำหนักตัว เพราะต้องใช้ในการสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ ฟัน อวัยวะต่างๆ ที่กำลังเจริญเติบโต และรองรับปริมาตรเลือดที่เพิ่มขึ้น และยังใช้เป็นพลังขับเคลื่อนร่างเล็กๆ ที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งด้วย

คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจให้ลูกน้อยได้รับทั้งพลังงานและสารอาหารอย่างหลากหลาย ครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอ เพราะจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเพื่อรักษาสภาพสมดุลร่างกาย และยังต้องมีสำรองให้ร่างกายใช้เมื่อเด็กน้อยมีกิจกรรมเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น หรือในยามเจ็บป่วย

ลูกน้อยวัย 1-3 ปีนั้นต้องการพลังงานวันละ 1,000  กิโลแคลอรี่ ซึ่งอาหารที่ให้ พลังงานจะได้จากหมวดข้าว แป้ง ธัญพืชต่างๆ  น้ำตาล และไขมันจากพืชและสัตว์ เรามีหลักการดีๆ มาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกชนิดของอาหารกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ดังต่อไปนี้

ข้าว-แป้ง: ควรให้ลูกน้อยทานข้าวเป็นประจำโดยเฉพาะข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ เพราะเป็นอาหารขัดสีน้อย จะมีโปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน และใยอาหารในปริมาณมากกว่า และสลับกับอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ เผือก มัน ควรทานอาหาร กลุ่มข้าว-แป้งวันละ 3 ทัพพี

เนื้อสัตว์: ลูกน้อยควรทาน ไข่ นม เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อปลา หมู ไก่ หรืออาจเป็นถั่วต้มเปื่อยต่างๆ หรือเต้าหู้ ที่ใช้ทดแทนอาหารเนื้อสัตว์ได้ในบางมื้อ  อาหารกลุ่มนี้ให้โปรตีน ซึ่งช่วยการเจริญเติบโตและสร้างกล้ามเนื้อต่างๆ เด็กวัยนี้ต้องการโปรตีนวันละ 1.4 รัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน เด็กควรได้รับไข่วันละ 1 ฟองและได้ดื่มนมทุกวัน คุณพ่อคุณแม่สามารถให้อาหารที่เสริมธาตุเหล็กโดยปรุงอาหาร จากเนื้อสัตว์ ตับ เลือด ไข่แดง โดยจัดให้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อป้องกันโรคโลหิตจาง

ไขมัน: ไขมันนอกจากจะให้พลังงานแก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยการดูดซึมวิตามินบางตัวด้วย เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค  เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับไขมันไม่เกินกว่าร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด (หรือเทียบเท่าน้ำมันพืช 3 ช้อนชาต่อวัน)

ผัก: ให้วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ควรให้ลูกน้อยทานหลากหลายสี เช่น สีเขียวเข้ม สีเหลืองส้ม สีแดง สีม่วง สีขาว เป็นต้น โดยเฉพาะสีเขียวเข้ม สีเหลือง-ส้ม สีแดง เด็กควรทานผักมื้อละ ½ ทัพพี เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่รอบด้าน เจริญเติบโตอย่างสมวัย

ผลไม้: ให้วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ควรให้ลูกทานผลไม้สด จะดีกว่าผลไม้ตากแห้งหรือน้ำผลไม้ เพราะจะได้รับสารอาหาร ส่วนน้ำผลไม้นั้นอาจจะมีการแต่งรสชาติทำให้น้ำตาลมาก อาจทานหลังมื้ออาหารกลางวัน หรือเป็นอาหารมื้อว่าง โดยเฉลี่ยควรทานผลไม้ 3 ส่วนต่อวัน

นม: ควรให้ลูกน้อยดื่มนมเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ได้รับแคลเซียมเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต และยังช่วยเรื่องการสะสมมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง เด็กควรดื่มนมรสจืดวันละ 2-3 แก้ว

สำหรับการจัดเตรียมอาหารให้ลูกน้อยนั้นควรให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาความสดใหม่เพื่อคงคุณค่าทางอาหารให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้อุปกรณ์ในการเก็บรักษาอาหารที่เหมาะสมให้กับลูกน้อย ทั้งในด้านวัสดุที่ใช้ ขนาดบรรจุที่เหมาะสม และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ช่วยในการถนอมอาหารและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการใช้งาน

โดยกระปุกเก็บถนอมอาหารของ Beaba มีให้เลือกหลากหลายประเภทและขนาดบรรจุ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม พร้อมคุณสมบัติในการถนอมอาหารที่จะช่วยคงความสดใหม่ และคงคุณค่าทางอาหารให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี

Baby Portion Tritan กระปุกเก็บอาหารสูญญากาศ ฝาปิดสูญญากาศปิดแน่นสนิท สามารถเก็บรักษาอาหารให้คงความสดใหม่ได้นาน ไม่ติดสี ไม่ติดกลิ่น นความเย็นสูงสุด -20 °C และทนความร้อนได้สูงสุด 100 °C สามารถแช่แข็ง เข้าไมโครเวฟ นึ่ง และอุ่นได้

Conservation Jars in Glass กระปุกแก้วเก็บถนอมอาหารฝาปิดสูญญากาศ ใช้สำหรับจัดเก็บอาหารหรือวัตถุดิบ ช่วยให้อาหารคงความสดใหม่ได้นาน ไร้กลิ่น ไม่ติดสี ทนความเย็นสูงสุด -20 °C และทนความร้อนได้สูงสุด 100 °C สามารถแช่แข็ง เข้าไมโครเวฟ นึ่ง และอุ่นได้

Set of portions clip ชุดกระปุกเก็บอาหารสูญญากาศ สามารถเก็บรักษาอาหารให้คงความสดใหม่ได้นาน ไร้กลิ่น ทนความร้อนและความเย็นได้ดี สามารถแช่แข็ง เข้าไมโครเวฟ นึ่ง และอุ่นได้ 

Silicone Portions กระปุกเก็บอาหารซิลิโคนสุญญากาศ 100% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บรักษาแช่แข็งและละลายน้ำแข็ง วัสดุเป็นซิลิโคนนุ่ม ฝาปิดสนิทไม่รั่ว ทำความสะอาดได้ง่าย

นี่คือแนวทางการเลือกและจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสมให้ลูกวัยหัดเดิน แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจก่อนว่า เด็กน้อยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขนาดบริโภคจึงอาจ แตกต่างกันได้ ในบางวันลูกอาจทานมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้